ให้คุณอ่านป้ายที่อยู่ตรงคอเสื้อแจ็คเก็ต เพราะทางผู้ผลิตจะต้องระบุรายละเอียดต่างๆ ตามชนิดของหนังที่ใช้ผลิตรวมถึงคำเตือนด้วยอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ ทางผู้ผลิตก็จะแนะนำวิธีการทำความสะอาดเอาไว้ด้วย ดังนั้น มันจะดีมากถ้าคุณทำตามคำแนะนำเหล่านั้น คุณจะได้ไม่เผลอไปทำให้แจ็คเก็ตตัวเองเสียหาย [10] กันน้ำให้แจ็คเก็ตของตัวเองเพื่อป้องกันความเสียหาย. ไม่ว่าคุณจะใช้แจ็คเก็ตหนังชนิดไหนก็ตาม คุณควรจะฉีดสเปรย์กันน้ำเป็นระยะๆ เพราะมันจะช่วยปิดรูของตัวหนังได้ เวลาที่แจ็คเก็ตโดนน้ำ น้ำก็จะกลายเป็นหยดน้ำที่กลิ้งออกไปจากตัวหนัง และนั่นจะทำให้แจ็คเก็ตของคุณไม่เสื่อมสภาพเร็ว [11] ถ้าจะให้ดี คุณควรจะฉีดสเปรย์กันน้ำให้แจ็คเก็ตหนังของคุณให้เร็วที่สุดเมื่อคุณซื้อมันมา หากพยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก ให้คุณใส่แจ็คเก็ตแบบอื่นแทน เพราะถ้าแจ็คเก็ตหนังมีความชื้นมากเกินไป นั่นอาจจะทำให้มันเสื่อมสภาพเร็วเกินควรได้ [12] ทาแจ็คเก็ตด้วยน้ำยาบำรุงเครื่องหนัง. ให้คุณทาครีมบำรุงเครื่องหนังที่ด้านนอกทั้งหมดของตัวแจ็คเก็ตประมาณปีละครั้ง การคอยบำรุงแจ็คเก็ตหนังจะช่วยป้องกันไม่ให้ตัวหนังเกิดความชื้น และทำให้หนังมีความนุ่มและยืดหยุ่น และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการแตกกรอบได้ [13] คุณอาจจะลองใช้ไขปลาวาฬแท่งขัดไปที่ตัวหนังก็ได้ แม้ว่าไขปลาวาฬชนิดแท่งอาจจะมีเนื้อหยาบเกินไปสำหรับหนังที่นิ่มหรือบาง แต่มันจะได้ผลดีมากถ้าคุณเอาไปใช้กับแจ็คเก็ตหนังที่หนาและมีความแข็ง [14] ให้มืออาชีพด้านเครื่องหนังทำความสะอาดให้.
เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายคุณภาพของหนัง อย่าทำความสะอาดแจ็คเก็ตหนังนิ่มหรือหนังพิมพ์ลายเหมือนกับเวลาที่ทำความสะอาดหนังกลับชนิดนิ่มเองที่บ้าน เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องหนังจะมีความรู้และอุปกรณ์ในการกำจัดคราบสกปรก แม้คราบสกปรกที่หนักมากๆ เขาก็สามารถกำจัดได้ โดยที่คุณไม่ต้องเป็นห่วงเลยว่าแจ็คเก็ตหนังของคุณจะฉีกขาดหรือหดตัวหรือเปล่า [15] การซักแห้งเครื่องหนังนั้นค่อนข้างมีราคาสูง แต่จริงๆ แล้วในปีๆ หนึ่งคุณไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดแบบนี้มากกว่าหนึ่งครั้งหรอก สำหรับเสื้อหนังกลับ คุณสามารถทำให้สะอาดได้ตลอดเวลาด้วยการใช้แปรงคอยปัดฝุ่นอยู่เรื่อยๆ 5 เก็บแจ็คเก็ตหนังของคุณไว้ในที่ที่เหมาะสม.