การที่ลูกน้อยต้องมาเจ็บป่วยนั้นเป็นเรื่องน่ากังวลใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าลูกอาเจียนและดูเหมือนจะรับประทานอะไรไม่ได้เลย แต่ใจเย็นๆ ก่อน ปกติแล้วการอาเจียนไม่ใช่อาการที่หนักหนาอะไรและโดยทั่วไปคุณก็สามารถรักษาอาการเหล่านี้ได้เองที่บ้านจนกว่าอาการจะหายไป แต่ถ้าลูกอาเจียนอย่างรุนแรง อาเจียนเรื้อรัง หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย ให้เข้ารับการประเมินทางการแพทย์ 1 อย่าให้เด็กขาดน้ำ.
หากลูกอาเจียนควรให้ยาซ้ำหรือไม่ ให้ยึดหลักการง่าย ๆ คือ หากป้อนยาแล้วลูกอาเจียนทันที ก็ให้ยาซ้ำได้ แต่หากให้ยาแล้วลูกไม่อาเจียนทันที ก็ให้ข้ามยามื้อนั้นไปเลย ไม่ต้องป้อนซ้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับยาเกินขนาด 5. อย่าผสมยาในขวดนม อาจจะทำให้รสชาติและสีของยาเปลี่ยนไปจนเด็กไม่ยอมกิน ยิ่งกว่านั้นอาจทำให้คุณสมบัติทางกายภาพของยาเปลี่ยนไป หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา เช่น อาจทำให้ยามีฤทธิ์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นอันตราย หรือมีฤทธิ์ลดลง ซึ่งจะให้ผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรป้อนยาให้ลูกทีละชนิดจะปลอดภัยกว่า 6.
วิธีป้อนยาเด็ก อย่างถูกต้อง เมื่อ ลูกกินยายาก เด็กกินยายาก วันนี้เราจะมาดูวิธีป้อนยาเด็ก สำหรับเด็กที่ไม่ค่อยยอมกินยากันค่ะ ศ. นพ.
หลีกเลี่ยงการรบกวนเด็กระหว่างกิน: พ่อแม่ ไม่ควรอนุญาต ให้เด็กเล่นของเล่นหรือดูโทรทัศน์ระหว่างกินข้าว เพราะเด็กจะถูกดึงความสนใจไป 2. ระหว่างที่คุณแม่กำลังทำอาหาร ให้ลูกมีส่วนร่วมเล็กๆน้อยๆในการทำอาหาร เช่น ให้ลูกลองจับ ช่วยหยิบอาหาร ทำให้เด็กได้สัมผัสกลิ่น รสชาติ และเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงของอาหารก่อนและหลังปรุง ทำให้ลูกอยากรับประทานอาหารที่ตนเองมีส่วนร่วมในการทำมากขึ้น 3. ให้ลูกรับประทานอาหารเอง อาจจะเลอะเทอะบ้างแต่พ่อแม่ต้องอดทน เพราะจะช่วยให้ลูกรับประทานอาหารได้มากขึ้น 4. ชื่นชมเด็ก ที่สามารถรับประทานได้ด้วยตนเอง 5. เพิ่มความอยากอาหาร: ไม่ควรให้นมหรือขนมใกล้กับมื้ออาหาร เพราะจะทำให้ลูกอิ่มจนไม่กินข้าว (อาหารมื้อหลัก และอาหารว่างควรห่างกัน ประมาณ 2-3 ชั่วโมง) ถ้าใกล้มื้ออาหารแล้วควรให้เพียงน้ำเปล่า และที่สำคัญ เด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ข้าวเป็นอาหารหลัก นมจะเป็นอาหารเสริม จึงไม่ต้องกังวลว่าลูกจะกินนมไม่พอ 6. จำกัดเวลาในการกิน: มื้ออาหารไม่ควรเกิน 30 นาทีแม้ว่าเด็กจะกินได้ไม่มากก็ตามก็ให้เก็บจานเมื่อครบ 30 นาที 7. สร้างบรรยากาศในการกินข้าว ให้สนุกสนาน ไม่ตึงเครียด ไม่บีบบังคับมากเกินไป 8. เลือกชนิดและปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับเด็ก ค่อยๆตักให้ทีละน้อย ถ้าลูกกินหมดจึงค่อยเติมให้ 9.
5 มิลลิลิตร) ต่อเนื่องกันในเวลากินยานั้น เด็กอาจคิดว่าการกินยาแบบนี้ทำให้เขาต้องใช้เวลากินยานานขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นเด็กอาจขัดขืนไม่ยอมกินยาหนักขึ้น 4 ให้กินยาพร้อมกับอาหาร.
วางยาไว้ที่โคนลิ้นของเด็ก แล้วให้เด็กดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่ชื่นชอบเช่น น้ำผลไม้ ตามลงไป ให้เด็กกลืนน้ำลงคอโดยเร็วและให้คิดถึงแต่รสชาติของเครื่องดื่มเท่านั้น [10] ให้ศีรษะเด็กตั้งตรงหรือก้มลงเล็กน้อย กินน้ำโดยใช้หลอดดูดก็ได้ แบ่งหรือบดยา.
แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอนด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ 2. แปรงฟันนานครั้งละ 2 นาทีขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่าแปรงฟันได้สะอาดทั่วทั้งปาก ทุกซี่และทุกด้าน และเป็นการให้เวลาฟลูออไรด์ในยาสีฟันจับกับผิวเคลือบฟันเพื่อป้องกันฟันผุ 3. งดกินอาหารและเครื่องดื่มหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง เพื่อให้ช่องปากสะอาดนานที่สุด ส่งผลต่อสุขภาวะของฟันและเหงือกที่ดี.
หน้าแรก บทความ ลูกกินยายาก จัดการได้ง่ายๆ ภญ.
หลอดฉีดยาแบบพลาสติก เมื่อใช้ไปนานๆ ตัวเลขอาจจะเลือนไปได้ ถ้าคุณแม่มองตัวเลขไม่ชัด ควรเปลี่ยนอันใหม่ดีกว่า มิฉะนั้นอาจจะให้ปริมาณยาแก่ลูกผิดได้ ลูกกินยายาก วิธีป้อนยา เด็กเล็ก (1 – 6 ปี) เด็กโตบางครั้งจำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะชนิดแคปซูล เพราะถ้ากินยาชนิดน้ำนั้น จะต้องกินปริมาณมาก ถ้าลูกยังกลืนยาไม่ได้ มีวิธีการป้อนยา คือ 1. คุณแม่สามารถแกะปลอกแคปซูลออก แล้วนำผงข้างในมาให้ลูกกิน แต่เนื่องจากยาผงมักจะมีรสขม คุณแม่สามารถเติมน้ำหวานเข้มข้นลงไปเล็กน้อย แล้วให้ลูกกินแล้วดื่มน้ำตาม ลูกก็จะกินยาได้ 2. การหัดให้เด็กเล็ก ๆ รับประทานยาเม็ดหรือยาแคปซูล ควรเริ่มด้วยยาเม็ดเล็ก ๆ ยาเม็ดหรือยาแคปซูลบางชนิดไม่สามารถแบ่งได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรก่อน หากเป็นยาเม็ดที่แบ่งได้ให้หักเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วค่อยๆ ให้ลูกกลืนทีละชิ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือท่าทีทีนุ่มนวลของผู้ป้อนยา การพูดคุยอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงผลดีของการรับประทานยา อย่าเร่งเร้าเพื่อจะป้อนยาให้เสร็จอย่างรวดเร็ว ต้องอดทนค่อย ๆ ป้อน คุยเล่นกันไปพร้อม ๆ การป้อนยา บทความที่เกี่ยวข้อง: ยาสามัญประจําบ้าน คนมีลูก ยาสามัญ สำหรับทารก ยารักษาอาการป่วยที่พบบ่อยในเด็ก เด็กกินยายาก เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับการใช้ยากับเด็ก คำแนะนำจาก ภญ.
ปิลันธนา เขมะพันธุ์มนัส เกี่ยวกับการใช้ยากับเด็ก 1. ป้อนยาทีละขนาน บทความจากพันธมิตร ในกรณีที่เด็กได้รับยาหลายขนาน คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน อาจผสมหรือบดยาทุกชนิดรวมกัน แล้วป้อนเด็กในครั้งเดียวเพื่อความสะดวก ทั้ง ๆ ที่อาจจะทำให้รสชาติและสีของยาเปลี่ยนไปจนเด็กไม่ยอมกิน ยิ่งกว่านั้นอาจทำให้คุณสมบัติทางกายภาพของยาเปลี่ยนไป หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา เช่น อาจทำให้ยามีฤทธิ์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นอันตราย หรือมีฤทธิ์ลดลง ซึ่งจะให้ผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรป้อนยาให้ลูกทีละชนิดจะปลอดภัยกว่า 2. อุปกรณ์ป้อนยาเด็ก หากเด็กเล็กกว่า 1 ขวบหรือในเด็กที่กินยายาก การใช้หลอดดูดยา (syringe) แทนช้อนจะทำให้การป้อนยาทำได้สะดวกขึ้น โดยที่หลอดดูดยาจะมีตัวเลขบอกปริมาตรเป็นซีซีแสดงอยู่ ซึ่งหากว่าเด็กต้องกินยา 1 ช้อนชา ก็จะเท่ากับ 5 ซีซี และขอย้ำว่า "ช้อนชา" ในที่นี้ไม่ใช่ช้อนที่ใช้ในการชงชาตามบ้าน แต่เป็นช้อนที่แถมมาพร้อมกับขวดยา สำหรับในเด็กโตอาจต้องใช้ "ช้อนโต๊ะ" ซึ่งก็ไม่ใช่ช้อนที่ใช้บนโต๊ะอาหารตามบ้านเช่นกัน แต่ 1 ช้อนโต๊ะจะเท่ากับ 3 ช้อนชา ดังนั้น หากบนฉลากเขียนไว้ว่า ป้อนยาครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ก็ควรใช้ช้อนโต๊ะที่แถมมาพร้อมกับขวดยาเท่านั้น หรือใช้ช้อนชาป้อน 3 ช้อนก็ได้ 3.